Burberry Beauty เปิดตัว Burberry Goddess Eau de Parfum INTENSE

ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไหร่ เลือกฉีดยี่ห้อไหนดีถึงได้ผล?

ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไร? แต่ละยี่ห้อเหมือนกันหรือไม่?


ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคามักจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นที่เลือกใช้เพื่อแก้ปัญหาที่แตกต่างกันออกไป เช่นรุ่น Restylane Defyne มักใช้ช่วยเติมรอยลึกใต้ตาหรือปรับรูปหน้า

ปัจจุบันฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยม ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาดำคล้ำ ร่องใต้ตาลึก ซึ่งสามารถใช้แก้ปัญหาได้อย่างเห็นผล และจับต้องได้ ไม่แพงจนเกินไป แน่นอนเมื่อเป็นที่นิยมจึงเกิดคำถามที่ว่า “ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไหร่?” หรือ “ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บมั้ย?” โดยในบทความนี้จะพาทุกคนไปสำรวจว่า ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหนในแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปไหม รวมไขข้อสงสัยเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตายอดนิยม


แนะนำฟิลเลอร์ใต้ตาราคาดีมีคุณภาพ มียี่ห้อไหนบ้าง

ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งช่วยเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอยใต้ตา ทำให้ดวงตาดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น โดยฟิลเลอร์ใต้ตาราคาแตกต่างกันออกไปตามแต่รุ่นและแบรนด์ แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและราคาที่แตกต่างกัน แน่นอนว่าทุกรุ่นที่ยกตัวอย่างมาด้านล่างนี้ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกา มีความปลอดภัยสูง ไม่อันตรายต่อร่างกายแน่นอน

Restylane Defyne

Restylane Defyne เป็นฟิลเลอร์ใต้ตาราคาสูงที่ทำจากกรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งเป็นสารที่พบตามธรรมชาติในผิวหนังเป็นสารเติมเต็มให้บริเวณใต้ดวงตาดูอิ่มฟู ทำให้ริ้วรอยและร่องลึกดูจางลง Restylane Defyne มีความหนาแน่นสูงกว่าฟิลเลอร์ชนิดอื่นๆ จึงเหมาะสำหรับการรักษาริ้วรอยลึก และสามารถใช้ในการปรับรูปหน้าได้อย่างเห็นผล นอกจากนี้ยังมียาชาเป็นส่วนประกอบ ช่วยลดอาการเจ็บปวดระหว่างการทำหัตถการได้เป็นอย่างดี Restylane Defyne มีจุดเด่นดังนี้

●  ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้สูงสุดถึง 18 เดือน โดยไม่ต้องทำการฉีดซ้ำ
●  มักใช้ในการแก้ปัญหารอยลึก เช่น ใต้ตาลึกหรือร่องแก้ม

โดยเติมฟิลเลอร์ใต้ตาราคาอยู่ที่ 10,000-15,000 บาทต่อ 1 CC สำหรับรุ่น โดย Restylane Defyne

Restylane Vital

Restylane Vital เป็นฟิลเลอร์ใต้ตาที่มีเนื้อหนาแน่นน้อยกว่า Restylane Defyne Restylane Vital ตัวเนื้อมีความละเอียดสูงจึงเหมาะสำหรับการรักษาริ้วรอยตื้นและปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม ทำให้ผิวใต้ตาดูชุ่มชื้นและเรียบเนียน ใบหน้าดูสดใสมากยิ่งขึ้น โดยมีจุดเด่นดังนี้

●  ผลลัพธ์อยู่ได้นานที่สุดมากถึง 1 ปีโดยไม่ต้องฉีดฟิลเลอร์เพิ่ม
●  ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติจากเนื้อที่ละเอียด และหนาแน่นต่ำ
●  ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส สามารถใช้เป็น Skin Booster ได้

โดยปกติแล้ว Restylane Vital เป็นฟิลเลอร์ใต้ตาrestylaneราคาปานกลาง อยู่ที่ประมาณ 10,000-15,000 บาท แตกต่างออกไปตามแต่ละคลินิก

Restylane Vital Light 

Restylane Vital Light เป็นฟิลเลอร์สำหรับฉีดใต้ตาที่เน้นไปที่การปรับสภาพผิว คล้าย ๆ กับตัว Restylane Restylane Vital จึงเหมาะสำหรับใช้แก้ปัญหาในบริเวณผิวที่บอบบางเช่น ใบหน้า ลำคอ สามารถใช้แก้ปัญหาเรื่องริ้วรอยตื้น ๆ หรือรอยคล้ำบนใบหน้าได้เท่านั้น เพียงเท่านั้น โดยฟิลเลอร์ชนิดนี้มีจุดเด่นอยู่ที่

●  ความเป็นธรรมชาติหลังจากฉีดเสร็จ 
●  มีส่วนประกอบเป็นสารไฮยาลูรอนิกความเข้มข้นต่ำ ทำให้โอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองได้น้อย
●  สามารถใช้ลดความหมองคล้ำบนใบหน้าได้อย่างเห็นผล เช่นรอยดำใต้ตา
●  ระยะเวลาคงอยู่ของฟิลเลอร์รุ่นนี้คือ 6-12 เดือน

โดย Restylane Vital Light เป็นฟิลเลอร์ใต้ตาราคาประมาณ 10,000-13,000 บาทต่อ 1 CC นับเป็นรุ่น ของฟิลเลอร์Restylaneใต้ตาราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงมากนัก 

Juvederm Ultra XC

Juvederm Ultra XC เป็นฟิลเลอร์ใต้ตาราคาไม่สูงมากนัก มีความหนาแน่นปานกลาง เหมาะสำหรับการรักษาริ้วรอยที่หลากหลาย ทั้งริ้วรอยตื้นและลึก อย่างไรก็ตามจะไม่สามารถให้ผลลัพธ์ในประเภทริ้วรอยที่ลึกได้เท่าตัว Juvederm Volift ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยลึกโดยเฉพาะ อีกหนึ่งจุดเด่นคือ Juvederm Ultra XC มีส่วนผสมของยาชา จึงช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการรักษาได้เป็นอย่างดี

●  เติมเต็มร่องใต้ดวงตา ทำให้ดวงตาที่ดูโทรมกลับมาสดชื่นอีกครั้ง
●  ลดความหย่อนคล้อยใต้ตา
●  ปรับปรุงรูปลักษณ์โดยรวมของดวงตา
●  ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ปรับเปลี่ยนรูปหน้าได้อย่างเห็นผล

โดย Juvederm Ultra XC เป็นฟิลเลอร์ใต้ตาราคาที่เอื้อมถึงได้ อยู่ที่ประมาณ 8,000-10,000 บาทต่อ 1 CC

Juvederm Volite

ตัวฟิลเลอร์ Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา เนื้อมีความหนาแน่นไม่มากนัก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาด้านสภาพผิวให้กลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง และแก้ปัญหาริ้วรอยที่ไม่ได้ลึกมากนัก 

และลดเวลาในการฉีดยาชาก่อนทำหัตถการได้อีกด้วย โดยจุดเด่นของ ฟิลเลอร์ Juvederm Volite มีดังนี้

●  ปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม
●  เพิ่มความชุ่มชื้นและความเปล่งปลั่ง
●  ลดริ้วรอยและร่องลึก
●  เพิ่มความยืดหยุ่นและความกระชับของผิวหน้า
●  ผลลัพธ์ที่ยาวนานถึง 9 เดือน
●  ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่มีการปรับรูปหน้าให้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

Juvederm Volite ใช้ฉีดใต้ตาคล้ำราคาอยู่ที่ประมาณ 15,000-25,000 บาทต่อ 1 CC

Juvederm Volift

ตัวฟิลเลอร์ Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา เนื้อมีความหนาแน่นสูง Juvederm Volift จึงเหมาะสำหรับการรักษาริ้วรอยลึก ช่วยยกกระชับผิวใต้ตาให้ดูอ่อนวัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้จุดเด่นของ Juvederm Volift อีกอย่างหนึ่งคือยังมีส่วนผสมของยาชา จึงช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการรักษา

และลดเวลาในการฉีดยาชาก่อนทำหัตถการได้อีกด้วย โดยจุดเด่นของ ฟิลเลอร์ Juvederm Volift มีดังนี้ 

●  เติมเต็มร่องลึกใต้ตา
●  ลดความหย่อนคล้อยใต้ตา
●  สามารถใช้ปรับเปลี่ยนรูปหน้าได้ เนื่องจากตัวเนื้อของฟิลเลอร์มีความหนาแน่นสูง
●  สามารถใช้แก้ปัญหาหลุมสิวบนใบหน้าได้

ฟิลเลอร์รุ่นนี้ใข้ฉีดร่องใต้ตาราคาอยู่ที่ประมาณ 15,000-20,000 บาท


เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดีปลอดภัย มั่นใจได้?

ราคาฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากฟิลเลอร์ใต้ตาราคาไม่ได้สูงมากนักเมื่อเทียบกับหัตถการอื่น ๆ เช่น Sculptra นอกจานี้ยังมีประโยชน์หลากหลาย เช่นสามารถฉีดฟิลเลอร์แก้ใต้ตาคล้ำราคาไม่แพงมากนัก แก้ปัญหาร่องลึกใต้ตา และถุงใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ได้มาตรฐานและปลอดภัยก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและไม่เกิดผลข้างเคียงตามมา ดังนั้น ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้

●  เพื่อความปลอดภัยควรเลือกคลินิกที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งโดยเบื้องต้นสามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองที่เว็บ https://hosp.hss.moph.go.th/ 
●  เลือกคลินิกที่ให้แพทย์เป็นผู้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เนื่องจากในปัจจุบันเพื่อลดต้นทุน และราคาของการให้บริการ หลาย ๆ คลินิกเลือกให้พยาบาล หรือผู้เชี่ยวชาญฉีดฟิลเลอร์ให้ลูกค้า ซึ่งแน่นอนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่หวัง ในเบื้องต้นก่อนที่จะทำ จึงควรสอบถามว่าผู้ทำหัตถการให้นั้นเป็นแพทย์หรือไม่
●  ก่อนตัดสินใจเชื่อคำโฆษณา “ฟิลเลอร์ฉีดใต้ตาราคาพิเศษ” ต่าง ๆ ตามช่องทาง Social Media ควรดูรีวิวเพิ่มเติมจากลูกค้าจริง ๆ ผ่านทางกลุ่ม Facebook หรือตามช่องทางที่น่าเชื่อถือ
●  ดูรุ่นและยี่ห้อของฟิลเลอร์ใต้ตาที่ทางคลินิกมี เนื่องจากอย่างที่กล่าวไว้ในข้างต้น ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาแตกต่างกันออกไปตามแต่ยี่ห้อ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นย่อมต่างกัน เช่น Restylane Vital Light เป็นฟิลเลอร์ใต้ตาราคาไม่แพง เหมาะกับการฉีดเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยตื่น ๆ บริเวณรอบดวงตา หากเลือกไม่เหมาะสมอาจจะได้ผลลัพธ์ไม่เต็มประสิทธิภาพ
●  ราคาฟิลเลอร์ใต้ตาเองก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง หากถูกเกินไปอาจจะเข้าข่ายน่าสงสัยว่าเป็นฟิลเลอร์ปลอม หรืออาจจะได้รับการฉีดไม่ครบ 1 CC ดังนั้นควรเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาราคาที่เหมาะสมตามหลักความเป็นจริง
●  การให้บริการหลังการทำหัตถการ โดยปกติแพทย์มักจะให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองทั้งก่อน และหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เช่นควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอลล์ หากคลินิกใดไม่มีการแนะนำเหล่านี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้บริการ


สรุปแล้วฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไหร่?

จะเห็นได้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีราคาแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ สาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น ราคาฉีดใต้ตาที่ต่างกันจากแบรนด์และรุ่น หรือจากตัวคลินิกเองที่ตั้งฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเจาะกลุ่มตลาดผู้บริโภคที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรพิจารณาถึงหลาย ๆ ปัจจัยร่วมด้วยนอกจากเรื่องของราคา Filler ใต้ตา เช่นความสะอาดปลอดภัย ได้มาตรฐานของคลินิก และผ่านการตรวจสอบจากกระทรวงสาธารณะสุข




Insurance

Popular Blog
  |  Post by : nemophilanie
  |  Post by : bagone1688
  |  Post by : ADMEADME
  |  Post by : benznaka
  |  Post by : beautypost
  |  Post by : lovetoread
  |  Post by : benznaka
  |  Post by : @Foretoday

สมัครเพื่อรับข่าวสาร

* indicates required

Intuit Mailchimp

Interest Product