FitFlop X Song Hye Kyo

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เสริมความงามรูปแบบใหม่ ไม่ต้องผ่าตัด

ฟิลเลอร์ใต้ตา เสริมความงาม คืนความอ่อนเยาว์ โดยไม่ต้องผ่าตัด


ในแวดวงเสริมความงาม บริเวณใต้ตาเป็นจุดที่ได้รับความนิยมเป็นลำดับต้น ๆ เพื่อฟื้นฟูอาการต่าง ๆ เช่น รอยคล้ำใต้ตา ร่องใต้ตาลึก รวมไปจนถึงถึงริ้วรอยเล็ก ๆ ที่ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่ขึ้น สำหรับปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ โดยหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจคือ ฟิลเลอร์ใต้ตา  ช่วยฟื้นฟูบริเวณใต้ตาให้กลับมาดูสดชื่นและอ่อนเยาว์ลงได้


บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตา เริ่มตั้งแต่ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร ฉีดบริเวณใดบ้าง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาได้อย่างไร ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหม รวมถึงฟิลเลอร์ใต้ตาราคาถูกหรือแพง โดยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้สนใจใช้ตัดสินใจในการรักษาง่ายยิ่งขึ้น


ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ฉีดบริเวณใดได้บ้าง


ฟิลเลอร์ใต้ตา คือการเติมสารไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) เข้าไปในบริเวณใต้ตา เพื่อแก้ไขปัญหา เช่น ริ้วรอยใต้ตา ร่องน้ำตา รวมถึงใต้ตาคล้ำ ทำให้บริเวณใต้ตาดูเต็ม อ่อนเยาว์ขึ้น ทั้งยังดูสดใสขึ้นอีกด้วย เป็นทางเลือกหนึ่งในด้านเสริมความงามไม่ต้องผ่าตัด ทำให้ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน โดยทั่วไปแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินสภาพผิวกับปัญหาของแต่ละคนก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งบริเวณที่นิยมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ได้แก่


  • ร่องน้ำตา: ช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตาให้ดูตื้นขึ้น

  • ใต้ตา: ช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตาให้ดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น

  • บริเวณขอบตา: ช่วยแก้ปัญหาขอบตาดำ ทั้งยังทำให้บริเวณขอบตาดูเรียบเนียนขึ้น

ริ้วรอยร่องลึกใต้ตาเกิดจากอะไร

ริ้วรอยร่องลึกใต้ตาเป็นปัญหาพบได้บ่อยจนต้องจบปัญหาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีสาเหตุหลัก ๆ ในการเกิดริ้วรอยร่องลึกใต้ตา ได้แก่

  • อายุ: เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังจะสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสติน เป็นโปรตีนช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น ทำให้ผิวบางลงและเกิดริ้วรอย

  • การแสดงสีหน้า: ขมวดคิ้วยิ้ม หรือกะพริบตาบ่อย ๆ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาทำงานหนัก จนเกิดเป็นริ้วรอยได้

  • พักผ่อนไม่เพียงพอ: นอนหลับหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ผิวหนังได้รับการซ่อมแซมไม่เต็มที่ ส่งผลให้เกิดริ้วรอยได้เร็วขึ้น

  • แสงแดด: รังสี UV จากแสงแดดทำลายคอลลาเจน รวมถึงอิลาสตินในผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเสื่อมสภาพจนเกิดริ้วรอย

  • สูบบุหรี่: สารนิโคตินในบุหรี่ทำให้หลอดเลือดหดตัว ส่งผลให้ผิวหนังได้รับออกซิเจนกับสารอาหารไม่เพียงพอ ทำให้เกิดริ้วรอยได้เช่นกัน

  • การขาดน้ำ: การดื่มน้ำน้อยเกินไป ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและเกิดริ้วรอยร่องลึกใต้ตาได้ง่ายขึ้น



ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาได้หลายประการ

ใต้ตาเป็นบริเวณเผยให้เห็นถึงอายุและความเหนื่อยล้าได้ชัดเจน ปัญหาใต้ตาเช่น ริ้วรอย ร่องลึก ถุงใต้ตา หรือใต้ตาคล้ำ ล้วนส่งผลต่อความมั่นใจ ฉีด Filler ใต้ตา จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใส และเปล่งประกายมากยิ่งขึ้น


ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยอะไรได้บ้าง?

  • ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก: ฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ทำให้ผิวบริเวณใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น

  • แก้ปัญหาถุงใต้ตา: ช่วยเติมเต็มส่วนที่บุ๋มหรือเป็นหลุมลงไป ทำให้ถุงใต้ตาแลดูเล็กลง

  • ลดความคล้ำใต้ตา: ฟิลเลอร์บางชนิดมีส่วนผสมช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาได้

  • ปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์: เติมฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มฟู เปล่งประกาย และดูอ่อนเยาว์ลง

  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวใต้ตา: ฟิลเลอร์มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิค แอซิด ซึ่งช่วยอุ้มน้ำให้ผิว ทำให้ผิวใต้ตาชุ่มชื้นและดูสุขภาพดี



ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหม ใช้เวลาเท่าไหร่จึงจะเห็นผล?


ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหม? มีหลายคนสงสัย ระยะเวลาเห็นผลของฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่โดยเฉลี่ยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามักจะอยู่ได้ประมาณ 6 ถึง 12 เดือน


ระยะเวลาเห็นผล: จะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่จะเห็นผลลัพธ์เต็มรูปแบบใช้เวลาประมาณ 1 ถึง 2 สัปดาห์ เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่หรืออาการบวม ช้ำลดลง


ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีรักษาความงามที่ได้รับความนิยม แต่ก็มาพร้อมกับผลข้างเคียงและความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา ดังนี้

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย


  • บวม ช้ำ: เป็นอาการพบได้บ่อยหลังฉีด โดยเฉพาะบริเวณใต้ตา อาการนี้จะค่อยๆ หายภายใน 2-7 วัน

  • แดง ร้อน คัน: อาจเกิดขึ้นได้ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยเฉพาะหากมีการติดเชื้อหรือเกิดระคายเคืองต่อสารในฟิลเลอร์

  • ก้อน: ในบางรายอาจเกิดก้อนเล็ก ๆ ใต้ผิวหนังได้ แต่ส่วนใหญ่จะสลายไปเอง หรือผลลัพธ์อาจไม่สมมาตรกันทั้งสองข้าง


ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น การอุดตันของเส้นเลือด ติดเชื้อ เกิดการอักเสบหรือผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ ผลลัพธ์อาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เช่น ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ หรือเกิดการผิดรูป ที่อาจเกิดขึ้นได้


หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาจเกิดจากแพทย์ผู้ฉีดอาจกระจายฟิลเลอร์ไม่สม่ำเสมอ การอักเสบของเนื้อเยื่อ แพ้สารในฟิลเลอร์ หรือฟิลเลอร์ที่ฉีดมีคุณภาพไม่ดี ทั้งหมดเป็นสาเหตุทำให้เกิดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนได้ ดังนั้นการเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ไหนดี ควรดูรีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จากผู้เคยฉีดมาก่อนในการตัดสินใจ



หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีวิธีดูแลตัวเองอย่างไร

การดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้


  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด: ไม่ควรขยี้ตา เกา หรือใช้นิ้วมือสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์

  • ประคบเย็น: ใช้ผ้าชุบน้ำแข็งห่อด้วยผ้าสะอาด ประคบบริเวณที่ฉีดเป็นระยะ ๆ ช่วยลดอาการบวมและอักเสบ

  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรง: ไม่ควรออกกำลังกายหนัก ยกของหนัก หรือทำกิจกรรมทำให้หัวใจเต้นเร็วในช่วง 2-3 วันแรก

  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าและความร้อน: ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์อาจทำให้เกิดอาการบวมและช้ำได้มากขึ้น

  • ทานยาตามแพทย์สั่ง: ควรทานยาแก้ปวด ยาลดบวม หรือยาปฏิชีวนะตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

  • ไปพบแพทย์ตามนัด: ควรไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลและตรวจสอบอาการ


สรุปฟิลเลอร์ใต้ตาสำคัญอย่างไร

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือการเติมสารไฮยาลูรอนิก แอซิด เข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณใต้ตา เพื่อแก้ปัญหา ร่องใต้ตาลึก ถุงใต้ตา และใต้ตาคล้ำ ทำให้บริเวณใต้ตาดูเรียบเนียน อิ่มฟู ดูอ่อนเยาว์ขึ้น หลังฉีดอาจมีผลข้างเคียง แต่จะค่อย ๆ หายไปได้เอง ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการดูแลของแต่ละบุคคล หากมีอาการผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ทันที






Pooyingnaka Wellness

Popular Blog
  |  Post by : ADMEADME
  |  Post by : ADMEADME
  |  Post by : mylifesogood
  |  Post by : porsiwaporn1995
  |  Post by : admeadme
  |  Post by : ADMEADME
  |  Post by : Nicha
  |  Post by : poogan

สมัครเพื่อรับข่าวสาร

* indicates required

Intuit Mailchimp

Interest Product