อบอวลด้วยบรรยากาศความสนุกของงานวัดย้อนยุค กิจกรรมสุดหรรษา ปลุกเร้าการอ่านอย่างเพลิดเพลินใจ
เวียนมาอีกครั้งกับงาน เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 8 ที่จะระเบิดขึ้นในวันที่ 14-18 กรกฎาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เทศกาลแห่งการอ่านที่แฝงด้วยความสนุกสนานเร้าใจ อีกหนึ่งความสุขที่เด็กๆ หลายคนตั้งหน้าตั้งตารอคอย ซึ่งปีนี้จัดกิจกรรมยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งภายใต้แนวคิด ตะลุยโลกวรรณคดีไทย สร้างนิสัยรักการอ่าน เพื่อเปิดโลกจินตนาการให้กับน้องๆ เดินทางย้อนเวลากลับไปสัมผัสโลกวรรณคดีไทยในอดีต ในบรรยากาศงานวัดย้อนยุคที่ตื่นตาตื่นใจ และสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับตัวละครในวรรณคดีที่ถูกชุบชีวิตให้ออกมาโลดแล่นอย่างมหัศจรรย์ เดินลั้นลาภายในงาน และสนุกไปกับกิจกรรมพิเศษมากมายเพื่อสร้างนิสัยรักการอ่าน ตลอดจนปลูกฝังค่านิยมรักชาติ ความหวงแหนในศิลปวัฒนธรรมไทยและช่วยจรรโลงจิตใจเยาวชนในชาติ ตามแนวคิดของการจัดงานครั้งนี้ คือ เด็กฉลาด ชาติเจริญ
เพื่ออนุรักษ์ความงดงามของวรรณคดีไทยไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม ล่าสุดงาน เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 8 จึงได้หยิบยกเรื่องราวในวรรณคดีไทยขึ้นมาสร้างสีสันในงานนี้ เพื่อให้เด็กได้เห็นเป็นรูปธรรม สามารถเข้าใจได้ง่าย สนุกสนานไปกับการเรียนรู้ เพื่อเข้าไปสู่จินตนาการแห่งโลกวรรณคดีได้ล้ำลึกยิ่งขึ้น โดยสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการปลุกจินตนาการมหัศจรรย์ของเด็กไทยเพื่อให้ความรู้และสร้างกระแสให้เยาวชนหันมาเห็นคุณค่าของวรรณคดีไทยมากขึ้น และยังได้รู้เรื่องราวตลอดจนจดจำชื่อของวรรณคดีไทยเรื่องต่างๆ ได้ในที่สุด ริสรวล อร่ามเจริญ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย กล่าว
ชมัยภร แสงกระจ่าง นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ถ้าพูดถึง วรรณคดีไทย เยาวชนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยสนใจและไม่ค่อยรู้จัก หลายคนไม่ทราบแม้แต่ชื่อเรื่องและลืมเรื่องราวเก่าๆ เหล่านี้ไปหมดแล้วด้วยซ้ำ เพราะทัศนคติที่เห็นว่าวรรณคดีไทยล้าสมัย ใช้ภาษาที่สลับซับซ้อนเข้าใจยาก และกระแสนวนิยายแฟนตาซีของต่างชาติที่เข้ามาดูทันสมัย แปลกใหม่กว่า ทำให้เยาวชนหันมานิยมมากขึ้น แต่ความจริงแล้ว วรรณคดีไทยทุกเรื่องมีความสนุกสนาน เนื้อเรื่องชวนติดตามน่าอ่านไม่แพ้ชาติใดในโลกเลย และที่สำคัญวรรณคดีเป็นเอกลักษณ์ของชาติที่เยาวชนไทยควรตระหนักและให้ความสำคัญ เพื่อร่วมกันหวงแหนมรดกที่บรรพบุรุษไทยได้สร้างไว้ เพราะเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความเชื่อของบรรพชนไทย วิถีชีวิต ค่านิยม ตลอดจนความเป็นอยู่ในแต่ละยุคแต่ละสมัยมาโดยตลอด ทั้งยังมีความไพเราะงดงามทางภาษา แฝงด้วยแง่คิดที่มีคุณค่ามากมายให้ได้เรียนรู้ไปพร้อมกัน เพื่อเสริมสร้างสติปัญญาและต่อเติมจินตนาการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ภายในงานจะถูกเนรมิตให้กลายเป็นโลกแห่งจินตนาการของนวนิยายในวรรณคดีไทย เด็กๆ จะได้พบกับตัวละครในตำนานที่กลับมาโลดแล่นมีชีวิตอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น พระสังข์ จากวรรณคดีเรื่อง สังข์ทอง เจ้าชายผู้มีจิตใจดีงาม ถ่อมตนและเก่งกล้าสามารถ ที่จะแปลงโฉมมาในมาดของ เจ้าเงาะป่าบ้าใบ้ ตัวละครสุดน่ารักขวัญใจเด็กๆ กับการแต่งกายสีฉูดฉาดบาดตาที่จะเรียกรอยยิ้มได้ตลอดงาน อิ่มเอมใจไปกับวรรณคดีพื้นบ้านที่ซาบซึ้งกินใจมาทุกสมัย โสนน้อยเรือนงาม เรื่องราวของเจ้าหญิงแสนสวยที่เกิดมาพร้อมเรือนไม้งามกับชีวิตที่แสนอาภัพ เรื่องที่ให้คติสอนใจอย่างดีว่า อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง ที่จะปรากฎตัวสวยงามเฉิดฉายภายในงานเพื่อเชิญชวนให้น้องๆ สนใจรักการอ่าน ส่วนน้องคนไหนอยากเห็นตัวจริงเสียงจริงของ ชูชก พราหมณ์เฒ่าเจ้าเล่ห์ หนึ่งในตัวละครเอกจากวรรณคดีก้องปฐพีเรื่อง มหาเวสสันดรชาดก งานนี้จะได้เห็นเป็นครั้งแรก รับรองใจดี ไม่ใจร้ายอย่างที่คิด สำหรับใครที่ชื่นชอบความซุกซนของลิงเผือกจอมกวน หนุมาน ทหารเอกของพระรามในเรื่องรามเกียรติ์ ก็ไม่ผิดหวัง เพราะลิงดื้อตัวนี้จะกระโดดออกมาตรึงความสนใจเด็ก ๆ ตั้งแต่นาทีแรกไปจนนาทีสุดท้ายเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของ พระอภัยมณี วรรณคดีดังของกวีเอกสุนทรภู่ ที่มีนางเงือก ผีเสื้อสมุทร พระฤาษี สุดสาคร ม้านิลมังกร ฯลฯ ขนขบวนมาร่วมแจมสุดอลังการ ฯลฯ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและการอ่านของเด็ก ๆ และร่วมแต่งแต้มสีสันให้วรรณคดีไทยเป็น วรรณกรรมอ่านสนุกที่ไม่มีวันจบ ตลอดไป
ด้านโซนกิจกรรมและนิทรรศการยังมีสิ่งที่น่าสนใจที่ดึงดูดใจเด็กๆ เช่น กิจกรรมหรรษาประสาไทยที่จะ สาธิตการละเล่นของเด็กไทยสมัยก่อน เช่น รีรีข้าวสาร ตี่จับ หมากเก็บ ฯลฯ เพลิดเพลินกับกิจกรรม ทำขนมไทยด้วยตนเอง ส่วนใครนิยมของเล่น ในงานยังจัดเตรียมกิจกรรม การทำของเล่นย้อนอดีตแบบไทยๆ ซึ่งมีวัตถุดิบไว้ให้เยาวชนได้ร่วมสนุกและนำกลับบ้านได้ นอกจากนี้ยังมี สาธิตการทำหัตถกรรมพื้นบ้านจากใบลาน การประดิษฐ์ของจิ๋วจากดินญี่ปุ่น ที่ไม่ควรพลาด เที่ยวเพลินอย่าลืมแวะชม ตลาดโบราณ ที่มีน้ำอัดลม หวานเย็น ไอศรีมโและขนมต่างๆ ให้ทดลองชิมลิ้มความอร่อยจนพุงกางอีกด้วย
เรียกว่าทั้งหมดนี้ เป็นความพยายามของสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ในการผลักดันนโยบายการอ่านให้บรรลุผลสำเร็จ และสร้างแรงดึงดูดใจให้กับน้องๆ เยาวชนไทยด้วยรูปแบบที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย และยังให้เยาวชนไทยไม่หลงลืมเรื่องราวของวรรณคดีไทยและประจักษ์ถึงคุณค่าที่น่าหวงแหนของมรดกทางวัฒนธรรมในรูปแบบของวรรณกรรมของบรรพบุรุษไทย งานเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 8 (Book Festival for Young People 2010) จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 14-18 กรกฎาคม 2553 นี้ เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.thailandbookfair.com สำหรับโรงเรียนที่ต้องการจัดทัศนศึกษานำนักเรียนมาร่วมกิจกรรม ทางสมาคมฯ ยินดีที่จะอำนวยความสะดวกที่จอดรถ และเจ้าหน้าที่พาชมและบรรยายกิจกรรมภายในงาน แจ้งความประสงค์มาได้ที่ โทร. 02-9549560-4